หากไม่นับเรื่องเทรนด์สีประจำปีที่มักเปลี่ยนแปลงไปตามการวิเคราะห์ของผู้นำเรื่องสีระดับโลกอย่าง Pantone ดูเหมือนว่าช่วงขวบปีหลัง ๆ มานี้ เรื่อง Green Building หรือนวัตกรรมอาคารเขียว ที่หมายถึงการออกแบบอาคารอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม Universal Design หรือการออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มอย่างทัดเทียม และ Designed for Wellness หรือการออกแบบที่สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จะกลายเป็นวิธีคิดพื้นฐานหรือบรรทัดฐานในการออกแบบสถาปัตยกรรมของบรรดาสถาปนิกไปเสียแล้ว

ยกตัวอย่างเช่น Maggie’s Leeds Centre คลินิกรักษาโรคมะเร็งที่ในเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ ที่ Heatherwick Studio ออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อใช้ธรรมชาติเข้ามาช่วยบำบัดและเยียวยาผู้ป่วย หรือจะเป็น CopenHill หรือ Amager Bakke (Amager Hill) โรงงานแปรรูปขยะในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่ Bjarke Ingels Group (BIG) ออกแบบให้หลังคาของตึกเป็นสวนสาธารณะ และลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งสะท้อนแนวคิดในการเปลี่ยนเมืองหลวงของพวกเขาให้กลายเป็น Carbon-neutral city หรือเมืองคาร์บอนต่ำ เป็นเมืองแรกของโลกภายในปี 2025

อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมที่เอื้อต่อการใช้งานและใช้ชีวิตให้เป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัย ดูจะเป็นทิศทางการออกแบบที่กำลังได้รับความสนใจและให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ ทั้งปัจจุบันขณะและอนาคต ในบทความนี้จะพาไปสำรวจทิศทางการออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน ประจำปี 2565 ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

INDOOR GARDEN:
สวนในร่ม นำความร่มรื่นจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน

การมาของโควิด-19 ที่ทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น บวกกับกระแสนิยมของคนรักธรรมชาติในระยะหลัง ทำให้การปลูกต้นไม้ที่เคยเป็นเรื่องนอกบ้าน กลายมาเป็นเรื่องในบ้านมากขึ้น ปัจจุบันเราจะเห็นเนื้อหาความรู้เชิงแนะนำวิธีการปลูกต้นไม้ในบ้าน แนะนำพรรณไม้ในร่ม หรือเคล็ดลับการปลูกต้นไม้ในที่แสงน้อยให้รอดถูกผลิตมาให้อ่านกันมากขึ้น

การออกแบบเพื่อรองรับต่อการมีสวนในร่มคงหนีไม่พ้นการเปิดโปร่งพื้นที่ หรือระเบิดสเปซให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกบ้าน รวมถึงการออกแบบหน้าต่างบานใหญ่ หรือกำหนดช่องลมหรือช่องเปิดอาคารที่ช่วยให้แสงและอากาศสามารถลอดผ่านจากภายนอกเข้ามาสู่ภายในได้มากขึ้นเพื่อสร้างการไหลเวียนอากาศที่ดี ควบคู่ไปกับการใช้สีเอิร์ธโทนมาจับคู่กับวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างบรรยากาศภายในที่อบอุ่นและน่าพักผ่อนยิ่งขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยพื้นฐานของสถาปนิก ในการออกแบบอาคารที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนชื้นหรือสภาวะแวดล้อมในบ้านเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

SMART HOME:
บ้านอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตในบ้านง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

การก่อกำเนิดขึ้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) คือตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านเป็นเรื่องง่าย การมีอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของคุณ เพราะในปัจจุบันคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ ทั้งแบรนด์ใหญ่และเล็กยังเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ล็อคอัจฉริยะ หรือ Digital Door Lock ที่เพิ่มความปลอดภัยและประหยัดเวลา แม้กระทั่งบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมชั้นนำระดับโลกก็ยังให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ Digital Door Lock เพราะแนวโน้มในอนาคตผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์นี้มากขึ้น

สำหรับสถาปนิกที่มองหาวิธีการใหม่ ๆ ในการปลดล็อค ให้ชีวิตของผู้อาศัยเป็นเรื่องง่ายขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในบ้าน เราขอแนะนำ ‘Digital Door Lock DL7100’ ที่จะนำคุณเข้าสู่การเป็นบ้านยุคใหม่ ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความ Smart มากยิ่งขึ้น โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Door Lock DL7100 เข้ากับ Hafele Smart Living Application  ทำให้การปลดล็อคสะดวกยิ่งขึ้น แต่ยังคงเก็บรักษามาตรฐานของการใช้งานในฟังก์ชันพื้นฐานไว้อยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ ปลดล็อคด้วยวิธีสแกนลายนิ้วมือการปลดล็อคด้วยคีย์การ์ด หรือการปลดล็อคด้วยรหัสผ่าน และการปลดล็อคในกรณีฉุกเฉินด้วยกุญแจสำรอง รวมวิธีการในการปลดล็อคมากถึง 5 วิธีด้วยกัน

 

นอกจากอุปกรณ์ล็อคอัจฉริยะหน้าบ้านแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และระบบไฟภายในบ้าน ยังถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้คุณมากยิ่งขึ้น เพียงแค่เชื่อมต่ออุปกรณ์กับระบบอินเตอร์เน็ตภายในบ้าน จะทำให้สามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน Hafele Smart Living ได้จากทุกที่ ทั้งการเปิด-ปิด ระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ

MULTIFUNCTIONAL SPACES:
ห้องเดียวอเนกประสงค์ เป็นทั้งมุมนั่งเล่น ทำงาน และพักผ่อน

ข้อคำนึงสำคัญของสถาปนิกคือไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน ทั้งพฤติกรรมที่รีบเร่งและอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หรือรองรับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ ดังนั้นการออกแบบพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งจึงต้องมีความยืดหยุ่นสูง เคลื่อนย้ายสะดวกหรือสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่าย และใช้ประโยชน์ได้อย่างหลายหลายมากขึ้น ทั้งการเป็นพื้นที่ทำงาน พักผ่อน นั่งและนอนเล่นได้อย่างไม่ขัดเขิน

สำหรับสถาปนิกผู้ที่มองหา Solution ที่ตอบโจทย์การออกแบบอย่างหลากหลาย เราขอแนะนำ The Hawa Experience ที่ HAFELE Design Studio ซึ่ง เฮเฟเล่ ประเทศไทย มีตัวอย่างการออกแบบพื้นที่อเนกประสงค์ หรือมัลติฟังก์ชันสเปซโดยใช้อุปกรณ์บานเลื่อนจากแบรนด์ HAWA ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ฮาร์ตแวร์และฟิตติ้งสำหรับบานเลื่อนและบานเฟี้ยมคุณภาพจากสวิตเซอร์แลนด์ว่า 56 ปี ในการสรรสร้างพื้นที่อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบครบครันให้ชม

MULTIFUNCTIONAL FURNITURE:
เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มากด้วยฟังก์ชัน

การนำปรัชญา Less is more น้อยแต่มาก มาปรับใช้กับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าของบ้านบางคนเป็นนักสะสมที่มีข้าวของเยอะ สถาปนิกต้องเลือกจัดระเบียบสิ่งที่จะตั้งโชว์และสิ่งที่จะต้องเก็บมิดชิด อาศัยการจัดระเบียบพื้นที่ให้ภาพรวมของบ้านมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากที่สุด ท้ายที่สุดแล้ว การออกแบบพื้นที่ใช้สอยเพื่อการประหยัดพื้นที่อย่างมีนัยยะต้องรู้จุดประสงค์ของการใช้งานเป็นลำดับแรก

คงจะดีไม่น้อยถ้าเรามีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มากด้วยฟังก์ชัน เช่น การวางตู้เย็นไว้กับห้องนั่งเล่นอาจไม่เหมาะนักเมื่อเทียบกับวางในห้องครัว ทว่า Hafele Smart Table Fridge นั้นเป็นทั้งตู้เย็น เครื่องเล่นเพลง แท่นชาร์จยูเอสบี ที่มาในรูปแบบโต๊ะกลาง เป็นทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ซ้ำใคร มีระบบควบคุมการใช้งานด้วยจอ LED Touch Control Panel มีช่องจัดเก็บที่สามารถควบคุมการทำงานแยกส่วนกัน มาพร้อมขนาดความจุ ช่องซ้าย 70 ลิตร และช่องขวา 65 ลิตร ที่สามารถปรับอุณหภูมิแยกซ้าย-ขวาได้ตั้งแต่ 3-12 องศาเซลเซียส มีโหมด ECO Mode ช่วยประหยัดพลังงาน และโหมดทำความเย็นอัจฉริยะที่สามารถปรับอุณหภูมิตามปริมาณของที่แช่ในตู้เย็นและอุณหภูมิด้านนอกอย่างชาญฉลาด

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราอยากแนะนำ คือ กระจกอัจฉริยะ Wifi สำหรับติดตั้งในห้องน้ำขนาด 1000 x 700 mm. ที่มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 21.5 นิ้ว แบบสัมผัส ความละเอียดหน้าจอที่ 1,920 x 1,080 พิกเซล และ ระบบปฎิบัติการ Android สามารถเชื่อมต่อกับ Wifi 2.4G/5G เพื่อใช้เล่น Application ต่างๆ เช่น Youtube หรือ Facebook ช่วยเพิ่มประสบการณ์ใหม่และความสุนทรีย์ที่ทันสมัยในห้องน้ำของผู้อยู่อาศัย

ทั้งหมดนี้คือแนวโน้มในการออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน ประจำปี 2565  ในยุคที่เทคโนโลยีล้ำหน้าและผลักดันให้ระบบควบคุมการทำงานในบ้าน สามารถเอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตบนความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

อ้างอิง:

https://www.archdaily.com/941540/maggies-leeds-centre-heatherwick-studio
https://www.archdaily.com/925966/copenhill-the-story-of-bigs-iconic-waste-to-energy-plant
https://african.business/2022/01/apo-newsfeed/top-5-home-automation-trends-in-2022
https://rmjm.com/5-architecture-trends-for-2022
https://www.greenwithpurpose.com/plants-for-coffee-shops-or-cafes