หนึ่งในเทคนิคทางการออกแบบที่ใช้งานร่วมกับกระบวนการ BIM มาโดยตลอดคือการแบ่งปันข้อมูลให้ทุกฝ่ายได้รับรู้กันอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภายในโมเดล ตัวชิ้นงาน หรือองค์ประกอบอื่นๆ นั่นทำให้  Revit Family เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญที่น่าสนใจ และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำงานของนักออกแบบยุคใหม่ในอนาคต

การใช้งาน Revit Family มีเคล็ดลับแบบไหนที่ควรรู้บ้าง นี่คือบทความที่รวมเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจช่วยเหลือให้งานของคุณง่ายขึ้นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

อะไรคือ Revit Family แบบเข้าใจง่ายๆ

Revit Family คือ หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญจาก Autodesk Revit ที่ทำการจัดสรร Object ต่างๆ เข้าด้วยกันและแบ่งย่อยออกตามหมวดหมู่ Family นั้นๆ เช่น Doors, Walls, หรือ Ceiling เพื่อความง่ายต่อการใช้งาน ไปจนถึงการสร้างและแบ่งปันไฟล์ต่างๆ ให้กับผู้คนที่ร่วมทำงานด้วยกัน

โดยไฟล์ใน Revit Family จะถูกแบ่งออกได้หลากหลายรูปแบบเป็นอย่างมาก แต่ที่ได้รับการระบุเป็นทางการจากทาง Autodesk นั้นได้แก่

1. System Family

Family หลักของทาง Revit ที่มักเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง เช่น กำแพง ผนัง หลังคา โดยส่วนมากแล้วการตั้งค่าพารามิเตอร์ ต่างๆ ของ Family นี้จะค่อนข้างตายตัว ไม่มีการเปิดโอกาสให้ปรับเปลี่ยนมากนัก

2. Loadable Family

Family ส่วนเสริมที่จำเป็นสำหรับสิ่งก่อสร้าง ที่ค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ถูกปรับเปลี่ยนได้ระดับหนึ่งตามที่ผู้สร้างได้มีการกำหนดไว้ และไฟล์ชนิดนี้นี่เองที่เราพบเจอได้ตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยมีนามสกุลไฟล์เป็น RFA ซึ่งสามารถ Autodesk Revit สามารถ Import ไฟล์เหล่านั้นมาใช้งานได้

3. In Place Family

Family สำหรับการทำงานโปรเจ็คเฉพาะต่างๆ ที่มีการอ้างอิงพารามิเตอร์ตามพื้นที่เฉพาะ หรือมีการเจาะจงค่าเป็นพิเศษ
นอกเหนือจาก 3 หมวดหลักนั้นก็จะมี Annotation Family ที่เป็นไฟล์ 2D เช่นป้ายบอกทิศทางต่างๆ สำหรับการใช้งานในโมเดล เป็นต้น

การใช้งาน Revit Family เบื้องต้น

โดยทั่วไปแล้วการใช้งาน Revit Family จะมีมากมายหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดสำหรับการใช้งานก็เห็นจะเป็นการสร้าง และการดึงไฟล์ต่างๆ ของ Revit Family ออกมาใช้นั่นเอง โดยมีวิธีการต่างๆ ดังนี้

พื้นฐานการ Create Revit Family 

  1. วางแผนการสร้างโมเดล เพราะจะส่งผลต่อการปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ใน Category ภายหลัง
  2. เลือก Template ในการใช้งาน เบื้องต้นอาจใช้เป็น Generic Model Face Base ก่อน
  3. ดำเนินการสร้าง Skeleton พื้นฐาน
  4. ดำเนินการออกแบบ Model ต่างๆ
  5. ดำเนินการใส่ค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ตามความเหมาะสม
  6. ดำเนินการสร้าง Family พร้อมกำหนด Parent
  7. ใส่โมเดลต่างๆ เข้าไปตามความเหมาะสม
  8. ทดสอบการเปลี่ยนแปลงค่าพารามิเตอร์ที่ส่งผลต่อ Family 
  9. วาด หรืออกแบบส่วนเสริมเพิ่มเติมอื่นๆ
  10. Clean โมเดล

การ Import Revit Family

  1. เลือก tab insert
  2. เลือก Load Autodesk Family
  3. เลือกไฟล์ที่ต้องการ โดยสามารถเลือกได้มากกว่า 1
  4. คลิก Load

เคล็ดลับสำหรับการใช้งาน Revit Family ของปี 2023

1. แหล่งข้อมูลที่ดีสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

“ข้อมูลสำคัญที่สุด” เป็นหนึ่งในเคล็ดลับการทำงานที่สามารปรับใช้ได้ในกับแทบทุกสายอาชีพ การประยุกต์ใช้งานกับ Revit เองก็เช่นกัน การมีแหล่งรวบรวมข้อมูลโมเดลดีๆ เอาไว้ย่อมไม่เสียหลาย 

เราขอแนะนำ BIMobject หนึ่งในแหล่งรวม Revit Family คุณภาพ รวมไปถึงไฟล์สำหรับการออกแบบที่จำเป็นต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสินค้าขายจริง โดยโมเดลต่างๆ ถูกรวบรวมไว้มากถึง 2,000 แบรนด์ให้เหล่านักออกแบบได้ลองเข้าไปค้นหา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ BIMobject

2. การจัด Category ที่ดี ขาดไม่ได้สำหรับ Revit Family

การใช้งาน Family Category อย่างเป็นระบบระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นฐานะผู้สร้างผลงาน หรือผู้นำผลงานไปใช้จะช่วยให้งานต่างๆ ราบรื่นมากยิ่งขึ้น 

โดยทั่วไปแล้วโมเดลเสริมต่างๆ มักอยู่ใน Family Generic Model แต่ในความเป็นจริงแล้วโมเดลควรถูกจัด Category ให้เหมาะสม โดยเฉพาะโมเดลสำคัญที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอย่างกำแพง ประตู หรือส่วนเสริมสำคัญอย่างหน้าต่าง โต๊ะ สุขภัณฑ์ 

โมเดล หรือ ชุดโมเดลที่มีการจัด Category ถูกต้อง จะทำให้การมองเห็นไกด์ไลน์ การตั้งค่าพารามิเตอร์ ไปจนถึงการใช้งานต่างๆ ได้ถูกต้องแม่นยำ

3. โมเดลที่ดีต้อง “เรียบง่าย” และ “ใช้งานได้จริง”

Revit Family คุณภาพควรเป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน เหมาะกับการทำงานจริง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์การออกแบบใดก็ตาม

การออกแบบ Revit Family เบื้องต้นจึงควรเน้นการใช้งานโมเดลที่เรียบง่าย ไม่เลือกใช้ Material จาก Library ตนเองมากเกินไป ที่ทำให้สุ่มเสี่ยงจะเกิดอาการไฟล์ไม่ครบตอนใช้งาน และควรตรวจสอบไม่ให้ไฟล์นั้นใหญ่มากเกินความจำเป็น

4. ตั้งชื่อต่างๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้

สำหรับโมเดลที่มีการตั้งชื่อองค์ประกอบต่างๆ ด้วยตนเอง ควรตั้งชื่อเหล่านั้นด้วยความเป็นสากล ไม่ปะปนศัพท์ หรือวลีที่ผู้สร้างเข้าใจเพียงคนเดียว อาจทำให้การนำไปใช้งานในภายหลังผิดเพี้ยน หรือทำให้การตั้งค่า ถอดแบบต่างๆ ไม่ครบถ้วนได้

5. ใช้ Plug-in ต่างๆ เพื่อให้งานของคุณง่ายขึ้น

สำหรับกรณีนี้ไม่เพียงแค่การจัดการ Revit Family เท่านั้น แต่การใช้งาน Autodesk Revit มี Plug-in ต่างๆ ให้เลือกสรรมากมาย ที่สามารถช่วยให้งานของคุณ ง่าย เร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็น Plug-in สำหรับการคลีนโมเดล การส่งต่อและนำเข้าไฟล์อย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการสร้างเอกสารที่เหมาะสม โดยคุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Autodesk

สรุป

การใช้งาน Revit Family สำหรับปี 2023 นั้น สิ่งที่ทำให้นักออกแบบสามารถทำงานได้เร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยังคงเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างการจัดการพารามิเตอร์ต่างๆ การเข้าใจโมเดล และการใช้งานส่วนเสริมให้โปรแกรม Revit มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ช่วยให้งานนั้นมีความรวดเร็ว ย่อมขาดโมเดลเสริมคุณภาพไปไม่ได้ BIMobject ได้รวบรวมโมเดลมากมายกว่าจากกว่า 2,000 แบรนด์ทั่วโลก เพื่อติดอาวุธทางความคิดของนักออกแบบให้ก้าวล้ำ เพิ่มความเฉียบคมทางดีไซน์ต่ออนาคตที่กำลังจะมาถึง สามารถดูโมเดลต่างๆ ที่น่าสนใจ มีสเกลจริง วางขายจริงทุกชิ้นได้ที่ BIMobject Thailand

แหล่งอ้างอิง

https://www.breakwithanarchitect.com/post/10-best-practices-for-revit-beginners
https://revitpure.com/blog/13-tips-to-understand-and-organize-revit-families
https://revitiq.com/creating-revit-families/
https://revitpure.com/blog/floor-system