Green building Trend 2021 – ส่องเทรนด์การออกแบบสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

Green Architecture คืออะไร?

เชื่อว่าเราคงจะเคยได้ยินคำว่า “สถาปัตยกรรมสีเขียว” หรือ “Green Architecture” กันมาบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวอยู่ ถ้าอย่างนั้นลองแทนค่าคำว่า “Architecture” ในที่นี้ให้เป็น “บ้าน” หรือ “ออฟฟิศ” ของเราเอง คงทำให้อยากรู้มากขึ้นว่าคำๆ นี้ จะมาช่วยให้สุขภาพของเรา และสุขภาพของโลกดีได้อย่างไรบ้าง แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักนิยามของคำนี้กันก่อน

“สถาปัตยกรรมสีเขียว” หรือ “Green Architecture” คือ การก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ ลดปัญหาภาวะโลกร้อน ผ่านการเลือกใช้วัสดุและวิธีการก่อสร้างที่เป็นมิตร สู่งานออกแบบสถาปัตย์ฯ เพื่อความยั่งยืนนั่นเอง (Sustainable Architecture) ซึ่ง BIMspaces X Hafele อาสาพาไปชม ว่าภายใต้ร่มเงาแห่งสถาปัตยกรรมสีเขียวอันมีเสาหลักแห่งความยั่งยืน 4 ต้น นั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

4 Pillars of Sustainable Architecture

1.Sustainable Facade Solutions– ยืดอายุฟาซาด

HAWA Moving Façade ระบบล้อบานเลื่อนภายนอกอาคาร ที่ผสมผสานกับทุกรูปแบบสถาปัตยกรรมได้อย่างกลมกลืน 

Facade (ฟาซาด) ก็เปรียบดังเสื้อผ้าอาภรณ์ของตึกนั้นๆ บางครั้งก็เรียกว่า เปลือกอาคารที่สร้างคาแรกเตอร์ เพิ่มความสวยงาม และยังช่วยยืดอายุการใช้งาน เป็นปราการแห่งแดดฝน ความชื้น ความร้อน ซึ่งในปัจจุบันเราเริ่มสนใจเรื่องงานออกแบบฟาซาดที่ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาภูมิอากาศของพื้นที่ ทิศทางลม การส่องสว่าง จากนั้นจึงเลือกใช้วัสดุและออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสม เช่น เลือกตำแหน่งที่ตั้งของห้องประชุมให้มีแสงสว่างที่พอเหมาะจากภายนอก จึงช่วยให้ประหยัดการใช้พลังงานภายในอาคาร และอีกหนึ่งโซลูชั่นก็คือ เลือกโปรดักต์ที่จะมาช่วยส่งเสริมจากแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง Hafele ที่ตอบโจทย์งานออกแบบอาคารที่อยู่อาศัย เช่น ผลิตภัณฑ์  HAWA Moving Façade บานเลื่อนภายนอกอาคาร จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ สามารถช่วยป้องกันแสงแดดได้ ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายใน อีกทั้งยังสามารถออกแบบให้มีดีไซน์ที่สวยงาม สร้างคาแรกเตอร์ให้อาคารโดดเด่นไม่เหมือนใคร

2. Green Materials & Architecture – เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

KALDEWEI สุขภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกจากเยอรมนี โดดเด่นด้วยวัสดุเหล็กที่สามารถนำไปใช้ใหม่ได้ (Recycle)

หัวใจหลักที่จะร่วมกันสร้างความยั่งยืนให้สถาปัตยกรรมและโลกใบนี้ ก็คือวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็น Green Materials ทั้งในเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และประหยัดต้นทุนการก่อสร้าง กระบวนการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังสามารถหมุนเวียนได้ โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์จาก Hafele ที่มีคุณสมบัติที่สามารถนำไปใช้ใหม่ได้ (Recycle)  ได้แก่ KALDEWEI หนึ่งในผู้ผลิตสุขภัณฑ์ห้องน้ำระดับโลกมากว่า 100 ปี จากประเทศเยอรมนี จุดเด่นของแบรนด์ “KALDEWEI” คือ เป็นพรีเมียมแบรนด์ตั้งแต่วัสดุการผลิตพิเศษ ที่ทำจากเหล็กเคลือบ enamel การันตีคุณภาพด้วยการรับประกันสินค้าถึง 30 ปี  พร้อมคุณสมบัติที่มากกว่า เช่น ECO FRIENDLY MATERIAL โดดเด่นด้วย “เหล็ก” วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม steel enamel ซึ่งสามารถใช้ซ้ำ รีไซเคิลได้ คงทน ใช้งานได้คุ้มค่า ช่วยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ มีการใช้พลังงานในการสร้างต่ำ

3.Durable Materials – ใช้ได้ดี ใช้ได้นาน

Hormann Easy Steel Doors by Häfele ที่มาพร้อมระบบล็อคเพื่อความปลอดภัยสุดทันสมัย กับระบบล็อคอิเล็กทรอนิกส์ “Dialock”

ใช้ได้ดีคือใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ได้นานคือวัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ซึ่งทั้งคู่ล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนและบำรุงรักษากันบ่อยๆ หมดปัญหากวนใจ และยังช่วยลด cost ในการดูแลระบบ maintenance ของอาคารหรือบ้านพักอาศัยนั้นๆ ด้วย ขอแนะนำโปรดักต์ที่ตอบโจทย์จาก Hafele ด้วยวัสดุที่ทนทานและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่อย่างประตูเหล็ก Hormann ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Twist & Match “จับคู่ความเป็นไปได้ด้านวัสดุ” 

ไอเดียในการสร้างสรรค์ประตูเหล็กผิวสัมผัสเสมือนบานไม้ ซึ่งผลิตจากเทคโนโลยีสุดล้ำ อัดแน่นด้วยคุณภาพและป้องกันสนิม ผลิตภัณฑ์บานประตูและวงกบ วัสดุทำจากเหล็กชุบกัลวาไนซ์พร้อมปิดผิวด้วย PVC ลามิเนตคุณภาพสูง ให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริงพร้อมเทคโนโลยีการรีดร้อนอันทันสมัยที่ช่วยเพิ่มความทนทานให้กับผิวประตู ทั้งยังสามารถป้องกันรังสียูวี ส่วนวงกบเป็นการพ่นสีฝุ่นที่มีความคงทนกว่าการทำสีแบบธรรมดา ไม่บิ่น ยากต่อการเกิดรอยขีดข่วน ทนต่อสารเคมี รอยเปื้อน ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

4. Energy Efficiency – ดึงพลังงานจากธรรมชาติ

เปิดมุมมองที่โปร่งโล่ง สบายตา ให้เห็นทัศนียภาพโดยรอบอย่างชัดเจนแบบ 180 องศา ด้วย “Alutec 120 Sliding Door with frame

การใช้ประโยชน์จากพลังงานธรรมชาติให้เกิดคุณค่าสูงสุด งานออกแบบที่ดีเพื่อสร้างความยั่งยืนต้องเป็นอาคารที่ลดการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้า ดึงเอาสิ่งที่มีอยู่รอบตัวมาใช้ เช่นการออกแบบการไหลเวียนของอากาศ หรือแสงจากธรรมชาติ และอีกทางเลือกที่สามารถช่วยได้ก็คือการเปลี่ยนมาใช้โคมไฟหรือหลอดไฟ LED ในระบบส่องสว่างเพื่อประหยัดพลังงาน หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดอุณหภูมิความร้อน นำเสนอโปรดักต์จาก Hafele ที่ตอบโจทย์ อาทิ ประตูบานเลื่อน Alutec  Sliding Door ที่มีกระจก LOW E ให้เลือกใช้งาน ซึ่งเป็นกระจกที่ช่วยสะท้อนความร้อน และลดอุณหภูมิในห้อง และยังสามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ด้วยระบบบานเลื่อนเปิด-ปิด ซ้าย-ขวา จึงช่วยประหยัดพื้นที่ ประหยัดพลังงานกับดีไซน์สวยโปร่งโล่ง ทำให้เปิดรับแสงสว่างธรรมชาติจากภายนอก พึ่งพาแสงจากหลอดไฟน้อยลง ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้

ทั้งหมดคือเสาหลักแห่งความยั่งยืนทั้ง 4 ต้น ที่มาพร้อมโซลูชั่นอันตอบโจทย์เพื่อการเติมเต็มให้ “Green building – สถาปัตยกรรมสีเขียว” เป็นสถาปัตย์แบบยั่งยืน ทำให้มนุษย์สามารถปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติเพื่อความสุขที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

หากสนใจข้อมูลสินค้า เเละ BIM object จาก Hafele สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ที่ https://bit.ly/3ldo5o1

ที่มา:

https://www.tselepis-alutec.gr/en/

https://www.forfur.com/media/idea/6021/6021_1475125697589604836