กว่า 5 ปีที่ “Prestige Paving” ก่อตั้งมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในเรื่องของวัสดุก่อสร้างจากหินธรรมชาติ ที่เสนอจุดขายว่าหินที่ดีต้องไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังต้องคงทนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

แม้ Prestige Paving จะดูเป็นน้องใหม่ของวงการหิน แต่ความเชี่ยวชาญที่สะสมมาทำให้สามารถคัดสรรหินคุณภาพดีจากทั่วทุกมุมโลกที่เหมาะสมกับงานได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงาน Landscape งานพื้น และงานผนัง โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็น สถาปนิก นักออกแบบ ผู้รับเหมา ไปจนถึงเจ้าของโครงการ หรือเจ้าของบ้านส่วนตัวที่ต้องการตกแต่งหรือรีโนเวทบ้านด้วยหินธรรมชาติ

ถ้าพูดถึงสินค้าหลักที่มียอดขายอันดับหนึ่ง คงหนีไม่พ้นหินลูกเต๋าหรือ Cobblestone ที่มีประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ปูถนน ทางเดิน หรือจัดสวน เราสามารถแบ่งหินลูกเต๋าได้ 2 ประเภท คือ แบบก้อนเดี่ยวๆ และแบบแผ่นสำเร็จรูป ซึ่งเป็นการนำหินก้อนเดี่ยวมาจัดเรียงเป็นลวดลายบนแผ่นไฟเบอร์ คล้ายโมเสก

ความเหมือนที่แตกต่างของหินลูกเต๋า

แม้จะเป็นวัสดุเดียวกันแต่หินทั้ง 2 ประเภทมีดีกันคนละอย่าง แน่นอนว่าหินแบบก้อนเดี่ยวมีความยืดหยุ่นมากกว่าในการติดตั้งและมีราคาที่ถูกกว่า นอกจากนั้นยังสามารถแก้ไขตามสเปกมากกว่า สำหรับหินแบบแผ่นสำเร็จรูป จุดเด่นคือความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความเป็นมาตรฐาน ประหยัดแรงงานช่างมากกว่า แต่กระนั้น สิ่งที่หินลูกเต๋าทั้งสองแบบมีเหมือนกัน คือความสวยงามที่เกิดจากหินธรรมชาติแท้ แต่ละก้อนมีเอกลักษณ์ของสีและลวดลาย มีความแข็งแรงสูง ทนต่อทุกสภาพอากาศ ดูแลรักษาและซ่อมแซมได้ง่าย

ค้าหินในยุคโควิด

ที่ผ่านมา Prestige Paving เผชิญกับปัญหาของค้างสต็อกและลูกค้าเลื่อนส่งสินค้า แต่ mindset ที่บริษัทยึดถือคือการมองว่าวิกฤตนี้เป็นอะไรที่เราต้องร่วมมือกับคู่ค้า แทนที่จะกดดันลูกค้า เราพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะเราเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ทุกอย่างก็เริ่มจัดส่งได้ตามกำหนดการณ์

ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 กลยุทธ์ทางการตลาดและช่องทางการขายสินค้าของ Prestige Paving ไม่ได้เปลี่ยนมากนัก เพราะบริษัทเน้นการขายทางออนไลน์เป็นหลักอยู่แล้ว นอกจากนั้น เราต้องการขายสินค้าในราคาที่ลูกค้าทุกระดับเข้าถึงได้ ซึ่งความสามารถในการตั้งราคาสินค้าให้ต่ำเกิดจากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พยายามลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น เช่น เราเน้นการคุยกับสถาปนิก หรือลูกค้าโดยตรง เพื่อให้ความรู้และจัดส่งหินตัวอย่างให้ แทนการมีหน้าร้านตั้งรอให้ลูกค้าวิ่งเข้าหา ในส่วนของต้นทุนการจัดเก็บสินค้า เราพยายามจัดการสินค้าไม่ค้างนาน และสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการสื่อสารเรื่อง lead time ในการผลิตและนำเข้าของหินแต่ละชนิด เพื่อให้ฝ่ายจัดซื้อสามารถแพลนเวลาการสั่งซื้อได้ถูกต้อง ทำให้สามารถลดการสต็อกสินค้าได้

โควิด-19 เป็นตัวเร่ง Digitalization

Prestige Paving พยายามทำทุกอย่างให้เป็น Digital เพราะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้เร็วที่สุด อัพเดทสินค้าและธุรกรรมได้ง่าย มีประสิทธิภาพ และต้นทุนต่ำ หลายๆ อย่างของธุรกิจเป็น Digital หมดแล้ว โดยเฉพาะการสื่อสารที่เน้นการติดต่อผ่านทาง Line และ Facebook รวมถึงการใช้โทรศัพท์เพื่อปิดการขายหรือการพูดคุยที่สำคัญ นอกจากนั้น เราลดการเข้าพบลูกค้า โดยจะไปพบเฉพาะเคสจำเป็นจริงๆเท่านั้น Product Catalog เราใช้เน้นเป็น Digital File เพราะง่ายต่อการส่งต่อ และจัดเก็บ

เส้นทาง Digitalization ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

เนื่องจากสินค้าของ Prestige Paving เป็นสินค้าจากธรรมชาติ มีจุดเด่นคือความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละชิ้น ทำให้หลายครั้งเกิดปัญหาจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน เช่น สีไม่ตรงกับในรูป ลวดลายบนหินแต่ละก้อนไม่เหมือนกัน ทางแก้คือการจัดหารูปของสินค้าในหลากหลายมุม รวมถึงการจัดส่งตัวอย่างไปให้สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวก

อีกหนึ่งปัญหาคือ งานโครงการจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย งานติดตั้งหินนั้นมักจะเป็นงานท้ายๆ ซึ่งอาจมีการสื่อสารผิดพลาดระหว่างทางได้ บางครั้งอาจมีการใช้คำพูดผิด หรือข้อมูลตกหล่น ทำให้ข้อมูลที่มาถึงเราไม่ครบถ้วนหรือไม่ชัดเจน ทำให้หลายครั้งต้องเสียเวลาในการตรวจสอบความต้องการของโครงการ ทาง Prestige Paving แก้ไขด้วยการใช้รหัสสินค้าอ้างอิงแทนการเรียกชื่อ

ซื้อใจสถาปนิก

ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนใช้อินเทอร์เนตในการค้นหาสิ่งที่ต้องการจะเห็นได้ตลอดเวลา ปฏิเสธไม่ได้ว่าไอเดียของสถาปนิกในปัจจุบันส่วนหนึ่งตกตะกอนมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้สัมผัสและจดจำผลงานสวยๆ จากถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะ Pinterest และ Archdaily ดังนั้น กุญแจสำคัญที่ทำให้ Prestige Paving ก้าวมาเป็นหนึ่งผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายหินที่ได้รับความไว้วางใจคือการติดตามผลงานการออกแบบที่ทรงคุณค่าของสถาปนิกทั่วโลก เพื่อคัดสรร จัดหา และนำเข้าวัสดุใหม่ๆ ที่สวยงาม ผ่านมุมมองของสถาปนิก นักออกแบบ และผู้ใช้งานจริง ที่ท้ายที่สุดทำให้บริษัทเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างถ่องแท้ นอกจากนั้น ยังเป็นการเปิดโอกาสให้สถาปนิกไทยมีโอกาสเลือกใช้ได้วัสดุได้หลากหลาย ทำให้งานที่ออกมามีคุณค่าและเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

คุณกฤตย์ บอกกับเราว่า ต้องการผลักดันให้ Prestige Paving เป็นหนึ่งในเพื่อนคู่คิดของสถาปนิกและทีมช่าง เพราะ “งานหิน” ที่เป็นคำเปรียบเปรยว่าเป็นงานยากนั้น ค่อนข้างละเอียดอ่อน จึงหาคนที่รู้จริงและมีประสบการณ์ในด้านนี้ได้ไม่มากเท่ากับวัสดุอื่นๆ ดังนั้น บริษัทจึงพยายามเป็นศูนย์กลางในการแบ่งปันความรู้และเทคนิคที่สะสมจากประสบการณ์ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าใจถึงธรรมชาติของหินและเลือกหินได้ตรงกับความต้องการ

BIMobject กับบทบาทในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ Prestige Paving

แม้เทคโนโลยี BIM จะเป็นที่นิยมในวงการนักออกแบบ แต่ถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับวงการวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หินธรรมชาติ”

คุณกฤตย์กล่าวถึงการนำเทคโนโลยี BIM เข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันว่า

การเป็นส่วนหนึ่งของ BIMobject เปรียบเสมือนการสร้างประตูวิเศษที่ทำให้ผู้ออกแบบเข้าถึงสินค้าของ Prestige Paving ได้โดยตรง โดยสามารถเข้ามาเลือกใช้ นำไปทดลองออกแบบเพื่อเกิดไอเดียใหม่ๆ รวมถึงจำลองการใช้งานจริงเพื่อให้เจ้าของโครงการเห็นภาพได้ทันที ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อวัสดุนั้นๆ เพราะหากซื้อวัสดุมาแล้วไม่ถูกใจ ย่อมทำให้เกิดต้นทุนที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ทั้งกับผู้ออกแบบที่ต้องแก้แบบใหม่ เจ้าของโครงการต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงผู้จัดจำหน่ายอย่างเราที่อาจโดนเปลี่ยนสเปกระหว่างการสั่งผลิต

Milestone ต่อไปที่ Prestige Paving วางไว้ คือการเป็นผู้ช่วยสร้าง Inspiration ให้แก่สถาปนิก นักออกแบบ จึงได้วางแผนสร้าง BIM ของสินค้าออกมา เพราะเมื่อผู้ออกแบบสนใจสินค้าตัวไหน ก็สามารถดาวน์โหลด BIM ของสินค้านั้น นำไป Simulate ในโปรเจคได้ทันที

ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด สำหรับ Prestige Paving นั้น งานหินไม่ใช่เรื่องหินอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการเลือกซื้อหินธรรมชาติคุณภาพดีที่มีเอกลักษณ์และมีความคงทน