ในยุคปัจจุบัน ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นปัญหาสำคัญ ทั้งมลพิษต่างๆ ภาวะโลกร้อน ไปจนถึงสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจทำให้เกิดเหตุต่างๆ ได้ทุกเมื่อ ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ถูกจับตามากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ที่เปรียบเสมือนรากฐานของการพัฒนาในทุกมิติ สู่อนาคตที่มีความยั่งยืน
นั่นเป็นเหตุผลที่นักออกแบบ สถาปนิก วิศวกร และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำเป็นจะต้องมองถึงความยั่งยืน (Sustainability) เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างสมดุลและยั่งยืนในระยะยาว
ความยั่งยืน (Sustainability) คืออะไร
ความยั่งยืน คือแนวทางของการก่อสร้าง และการพัฒนาสิ่งต่างๆ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ไม่ว่าจะทั้งกลุ่มคนส่วนรวม หรือกลุ่มคนรุ่นต่อไป
นั่นคือนิยามของความหมายด้านความยั่งยืนโดยสังเขป และแนวปฏิบัตินี้ได้ถูกพูดถึงมาเนิ่นนานตั้งแต่วันที่โลกตระหนักรู้ถึงการกระทำของตนเองว่าส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง และถูกตอกย้ำอีกครั้งในช่วงของการประกาศเกี่ยวกับการมาของภาวะโลกร้อน
ปี 2025 นี้ยิ่งเป็นปีที่ทุกฝ่ายต่างตื่นตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเด็นของการให้ความสำคัญในการลงทุนด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) หรือก็คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ที่ล้วนเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนแทบทั้งสิ้น องค์กรใดๆ ที่ให้ความสำคัญกับหลักการการดูแลเรื่องดังกล่าวจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากกลุ่มนักลงทุนทั้งใน และนอกประเทศ
เหตุผลที่ความยั่งยืนสำคัญต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้าง
ดังที่ระบุไปว่าความยั่งยืนส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรม สำหรับวงการการก่อสร้างยิ่งมีผลอย่างชัดเจน โดยมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
1.ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การคำนึงถึงความยั่งยืนของอุตสาหกรรมก่อสร้างมีส่วนช่วยอย่างมากให้การก่อสร้างนั้นๆ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การวางระบบการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ หรือแม้แต่การเลือกใช้ระบบต่างๆ ที่ช่วยคำนวณผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
2.ลดต้นทุน
การคำนึงถึงความยั่งยืนจะทำให้การก่อสร้างทั้งหมดมีความรัดกุมมากขึ้น ลดการใช้จ่ายเกินความจำเป็น ไม่เพิ่มเติมอะไรนอกเหนือแผนการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาวในต้นทุนที่เท่าเดิม หรือลดลง
3.ประหยัดพลังงาน
เมื่อคำนึงถึงความยั่งยืนย่อมต้องนึกถึงพลังงาน การนำแนวคิดนี้มาปรับใช้กับการก่อสร้างช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นน ส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานที่ดีต่อส่วนรวม อีกทั้งยังส่งผลไปถึงต้นทุนการทำงานที่ถูกลงอีกด้วย
4.ส่งเสริมสุขภาพ
การลดการปล่อยมลพิษในการก่อสร้าง และการวางแผนที่เป็นระบบ มีส่วนช่วยอย่างยิ่งต่อผลกระทบด้านสุขภาพของผู้ที่ทำงาน ส่งเสริมให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการทำงานหน้างานอย่างชัดเจน
5.เพิ่มมูลค่าการแข่งขัน
ความยั่งยืน ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการลงทุนในปัจจุบัน ทั้งการส่งเสริมการลงทุนในไทย และต่างประเทศ ที่ให้ความสำคัญด้าน ESG และการรับมือภาวะโลกร้อน การที่องค์กรนั้นๆ แสดงตนว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนความยั่งยืน ย่อมเพิ่มมูลค่าในตนเองได้อย่างชัดเจน
ประโยชน์ของการก่อสร้างที่ยั่งยืน
นอกเหนือจากประโยชน์ของทางฝั่งองค์กรแล้ว การให้ความยั่งยืนมามีส่วนร่วมยังส่งผลต่อสิ่งต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้
-
ด้านสังคม
เกิดความตระหนักรู้อย่างทั่วถึงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกับคนเป็นวงกว้าง สร้างความปลอดภัย และความเป็นอยู่ รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดีต่อคนในสังคม การออกแบบอย่างยั่งยืนยังมีส่วนช่วยในแง่มุมของ Universal Design ที่ทำให้คนทุกกลุ่มสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมอีกด้วย
-
ด้านสิ่งแวดล้อม
การก่อสร้างที่ยั่งยืนนอกจากจะประหยัดพลังงาน ลดของเสียแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการลดการใช้ทรัพยากรต่างๆ ลดการปล่อยคาร์บอน ที่ส่งผลโดยตรงต่อภาวะโลกร้อน ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานดีขึ้น
-
ด้านเศรษฐกิจ
การก่อสร้างแบบนี้สามารถช่วยสร้างมูลค่าของสิ่งก่อสร้างได้อย่างชัดเจน รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร ช่วยให้เศรษฐกิจหมุนเวียน และเห็นความสำคัญกับการก่อสร้างเช่นนี้มากขึ้น
เทคโนโลยีความยั่งยืนในวงการก่อสร้าง
-
BIM (Building Information Modeling)
เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการก่อสร้างครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนเบื้องต้น ออกแบบ ไปจนถึงการก่อสร้าง สามารถทำให้ทุกคนในทีมเห็นภาพทั้งหมดร่วมกัน ตรวจสอบสิ่งต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน มีตัวช่วยในการถอดปริมาณวัสดุได้อย่างแม่นยำ ทำให้การวางแผนเพื่อความยั่งยืนเป็นไปได้อย่างรอบคอบ มั่นคง
-
Eco-Friendly Materials
การใช้งาน Eco-Friendly Materials ในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายวิธี มีการคิดค้นวัสดุชนิดใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการรีไซเคิลวัสดุเก่าๆ ให้กลับคืนมาได้อย่างมีคุณภาพ ช่วยให้การดำเนินการก่อสร้างเกิดความยั่งยืน ดีต่อทั้งผู้ที่ทำงานและผู้พักอาศัย
-
3D Printing
เทคโนโลยีสำคัญในการก่อสร้างด้วยวัสดุที่หลากหลาย ปรับเปลี่ยนรูปทรงได้มากขึ้น ช่วยให้นักออกแบบได้มาซึ่งวัสดุที่เหมาะสมในระยะเวลาอันสั้น ลดการใช้วัสดุ ลดเวลา เพิ่มแม่นยำในการทำงาน
นอกเหนือจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เรายังคาดหวังว่ายังมีนวัตกรรมใหม่ๆ อีกไม่น้อยที่สามารถช่วยให้การก่อสร้างในยุคใหม่ของเรา เร็วขึ้น ดีขึ้น สามารถส่งต่อความยั่งยืนไปยังลูกหลานของเราได้ในอนาคต
สรุป
เห็นได้ชัดเลยว่าในปัจจุบันการสร้างความยั่งยืนได้กลายเป็นส่วนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้างไปแล้ว ทั้งในแง่มุมของประโยชน์ การประยุกต์ใช้ ไปจนถึงการคิดค้นเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ให้การก่อสร้างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ความท้ายทายในเรื่องนี้อาจเป็นในส่วนของการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ต้นทุนที่อาจสูงในช่วงเริ่มแรก และองค์ความรู้ต่างๆ ที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการพัฒนา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตเราอาจได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เพราะการสานต่อสิ่งต่างๆ วางรากฐานการก่อสร้างอย่างยั่งยืน จะสร้างมาตรฐานใหม่อันน่าทึ่งสำหรับเรา และลูกหลานของเราในอนาคต
หากท่านสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ การออกแบบ การก่อสร้าง และกำลังต้องการหาไอเดียต่างๆ จากหลากหลายแบรนด์ BIMobject ได้รวบรวมโมเดลมากมายกว่าจากกว่า 2,000 แบรนด์ทั่วโลก ที่จะช่วยให้งานของคุณ ง่าย สะดวก ด้วยโมเดลของจริง มีวางขายจริงทุกชิ้น ที่ BIMobject Thailand