รู้จัก 3D Modeling สิ่งนี้คืออะไร? และการใช้ประโยชน์ด้านอสังหาริมทรัพย์

เทคโนโลยีการสร้างภาพเสมือนในปัจจุบันมีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก เราสามารถจำลองตึกระฟ้า สัตว์ประหลาด แม้กระทั่งจักรวาลเข้ามาอยู่ในจอภาพได้ โดยเฉพาะบทบาทของ 3D Modeling หรือการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ที่กลายเป็นแกนหลักของการสร้างภาพเสมือนในปัจจุบัน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือไม่ใช่แค่วงการบันเทิงเท่านั้นที่ใช้ 3D Modeling แต่วงการอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์เองก็มีการปรับใช้เทคโนโลยีนี้อย่างแพร่หลาย บทความนี้จะพาคุณไปดูการสร้างแบบจำลองเสมือนจริงและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องว่ามันคืออะไร และเราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไรให้เต็มประสิทธิภาพ

3D Modeling คืออะไร

3D Modeling หรือชื่อไทยคือการสร้างแบบจำลอง (Model) 3 มิติ ด้วยโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ เพื่อที่สามารถเห็นแบบจำลองนั้นได้จากทุกมุมมอง ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และแนวลึกของแบบจำลอง แตกต่างจากภาพสองมิติที่ไม่มีแนวลึก

โมเดล 3 มิติมีข้อดีที่สามารถดัดแปลง แก้ไขได้ง่าย รวมถึงสามารถใช้งานได้มากมายหลายกหลายรูปแบบตั้งแต่งานศิลปะไปจนถึงงานด้านวิศวกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการก่อสร้างปัจจุบันที่การทำโมเดลเป็นปัจจัยหลักทั้งในการนำเสนอผลงาน การเตรียมการก่อสร้าง จนถึงงานตกแต่งภายใน เนื่องจากตัวโมเดล 3 มิติ เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกฝ่ายเห็นภาพร่วมกันมากที่สุด

ประโยชน์ของ 3D Modeling ในด้านอสังหาริมทรัพย์

1. ออกแบบการก่อสร้างอย่างมีคุณภาพ

การออกแบบการก่อสร้างด้วย 3D Modeling จะทำให้สถาปนิกและวิศวกรเห็นโครงสร้างทั้งหมดและสามารถจำลองสิ่งต่างๆ เพิ่มเติมได้ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ประปา ไฟฟ้า การตกแต่งภายใน และความปลอดภัยของอาคาร ทำให้ได้อสังหาริมทรัพย์ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น

2. เพิ่มความสวยงามในการนำเสนอ

การใช้งาน 3D Modeling ส่งผลอย่างมากในแง่ของการนำเสนองาน โดยเฉพาะด้านความสวยงาม ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเห็นภาพการก่อสร้างมากขึ้น ว่าบ้านที่แล้วเสร็จจะออกมารูปแบบไหน ส่งผลให้มีโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น

3. ลดข้อผิดพลาดของงานก่อสร้างที่อาจเกิดขึ้น

การใช้ 3D Model ในขั้นตอนการออกแบบจะทำให้เราเห็นข้อผิดพลาดที่เกิดจากงานต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้โมเดลร่วมกันและมีการแชร์ข้อมูลระหว่างฝ่ายโครงสร้าง ฝ่ายวิศวกรรม และสถาปนิก

4. ทำให้คนทำงานเห็นภาพมากขึ้น

ในบางครั้งการออกแบบที่ซับซ้อนอาจทำให้พนักงานบางส่วนมองเห็นภาพการก่อสร้างได้ยาก การใช้ 3D Model เข้ามาช่วยจะทำให้พนักงานเหล่านั้นเห็นภาพได้ง่ายมากขึ้น สามารถก่อสร้างและเก็บรายละเอียดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. สามารถแชร์ข้อมูลและโปรโมทอสังหาฯได้ง่าย

3D Model ไม่ได้มีการใช้งานแค่การออกแบบ แต่ยังสามารถต่อยอดไปในด้านการโปรโมทด้วย โดยการแชร์ข้อมูลภาพภายนอกอาคาร ร่วมกับการตกแต่งกราฟิกเพิ่มเติม สามารถใช้ในการโฆษณาอสังหาริมทรัพย์โครงการนั้นๆ ได้ ช่วยในการประหยัดงบประมาณการทำกราฟิกใหม่ เพราะใช้โมเดลตัวเดิม

เทรนด์เทคโนโลยีการใช้ 3D เข้าร่วมกับอสังหาฯ ที่กำลังมาแรง

การใช้เทคโนโลยี VR เข้าร่วมกับการซื้อ/ขาย อสังหาริมทรัพย์

เทคโนโลยี Virtual Reality ได้กลายมาเป็นสิ่งที่นิยมในการโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน ด้วยการใช้อุปกรณ์ VR ที่จำลองการเข้าอยู่อาศัยในอาคาร ทำให้ทางลูกค้าสามารถเห็นภาพของอาคารรวมถึงการตกแต่งภายในต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้นราวกับได้อยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ

เทคโนโลยีประยุกต์ใช้ข้อมูลร่วมกันระหว่างโปรแกรมเพื่อให้การทำงานไหลลื่นขึ้น (BIM)

Building Information Modeling (BIM) คือแนวคิดการออกแบบ สร้าง และตรวจสอบโมเดลภายใต้ฐานข้อมูลเดียวกัน ทำให้วิศวกร สถาปนิก และฝ่ายอื่นๆ สามารถทำงานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดน BIM มีการทำงานครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นโมเดลอาคารชิ้นใหญ่ไปจนถึงโมเดลสิ่งของขนาดเล็ก

หากคุณต้องการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี BIM เพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่นี่

ตัวอย่างโครงการที่มีการใช้ 3D Modeling

Ananda

3D Model ถูกใช้งานอยู่บ่อยครั้งในการโฆษณาของทางอนันดา ดีเวลอปเมนต์ โดยเฉพาะในการโปรโมตโครงการต่างๆ ทางบริษัทจะให้ความสำคัญกับการสร้างโมเดลพร้อมกับบรรยากาศจำลอง ทำให้ผู้ชมสามารถเห็นภาพชัดว่าหากโครงการนั้นๆ สำเร็จ จะออกมาเป็นรูปแบบไหน อย่างไร

นอกจากใช้ในการโฆษณาแล้ว อนันดา ดีเวลลอปเมนต์ เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เจ้าแรกๆ ในประเทศไทยที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 3D Modeling VR และ BIM เข้ากับการก่อสร้าง ตั้งแต่การออกแบบบ้านจนถึงการสร้างเฟอร์นิเจอร์แบบชิ้นต่อชิ้น เพื่อทำให้โมเดลที่ถูกสร้างออกมานั้นตรงตามแบบฉบับจริงมากที่สุด

ตัวอย่างโครงการที่อนันดามีการประยุกต์ใช้ 3D Model และ BIM เข้ามามีส่วนร่วมได้แก่ Ashton Rama 9, Q Sukhumvit 36 และ Ideo Sathon โดยทางบริษัทคาดว่าจะมีการพัฒนาโปรเจ็คต่างๆ ด้วยเครื่องมือนี้อีกมากมายในอนาคต

Sansiri

3D Living คือหนึ่งในโปรเจ็คที่ทางแสนสิริได้ออกแบบมาเมื่อปี 2019 เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยจะเป็นการจำลองห้องและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ 3D Model ให้ทางลูกค้าและคนที่สนใจสามารถแต่งห้องของตัวเองได้ราวกับอยู่ในเกมเลยทีเดียว รวมถึงยังมีดีไซน์ดีๆ จากดีไซนเนอร์มากฝีมือมาให้เราดูเป็นไอเดียอีกด้วย

นอกจากนั้นทาง Sansiri ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ประยุกต์ใช้ 3D Model และ 3D animation เพื่อโปรโมทโครงการของตัวเองมานานแล้ว และยังมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

Keller Williams Realty

ในต่างประเทศเองก็มีการใช้งาน 3D Modeling ที่มากมายและหลากหลาย ยกตัวอย่างของ Keller Williams Realty หรือที่รู้จักกันในชื่อของ KW อสังหาริมทรัพย์ระดับโลกสัญชาตอเมริกัน ใช้การสร้าง 3D Model ผสานกับภาพถ่ายจริงภายในห้อง จำลองออกเป็นภาพเสมือนจริงที่เนียนตาได้อย่างน่าทึ่ง

ซึ่งทางผู้เข้าชมสามารถดูโครงการต่างๆ ได้ทั้งจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แทปเล็ต และแว่น VR เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการโปรโมตโครงการที่น่าจับตามองมากเลยทีเดียว

สรุป

3D Modeling ไม่ใช่แค่การออกแบบกราฟิกเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้งานจริงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ช่วยทั้งด้านการออกแบบ ก่อสร้าง ตรวจสอบคุณภาพ จนถึงการโฆษณาเพื่อขาย ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีเกี่ยวกับ 3D Modeling ยังมีอีกมากมายให้เลือกใช้งาน ซึ่งเราต้องรอดูต่อไปว่าจะมีอะไรน่าสนใจอีกในอนาคต

หากคุณสนใจงาน 3D คุณภาพและได้มาตรฐาน BIMobject เป็นแหล่งรวบรวมโมเดลแบรนด์ไทยหลากหลายชิ้นกว่า 2,000 แบรนด์ ที่มีข้อมูลถูกต้อง และดาวน์โหลดฟรี มีให้ดาวน์โหลดแล้วที่ BIMobject Thailand