ท่ามกลางกระแส AI ของ ChatGPT ทำให้เกิดความตื่นตัวในหลายๆ อาชีพว่าจะถูก AI แย่งงานไปไหม ที่จริงแล้วในวงการ BIM เองก็มีเหตุการณ์คล้ายๆกันคือ Software+Hardware เก่งขึ้นมากๆ จนสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้หลายส่วน วันนี้ผู้เขียนจึงขอแนะนำซอฟท์แวร์ BIM ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในไทย

 

Prota

เป็นโปรแกรม Structural Analysis ที่เป็น BIM สามารถนำไปใช้ตรวจสอบ Clash Detection รวมถึงทำแบบ 2D ได้ด้วย ซึ่งจุดเด่นของ Prota ตัวโปรแกรมสามารถเข้าใจโมเดลของอาคารได้อย่างอัตโนมัติ ว่าจุดใดคือ Node, Member, เสา, คาน, พื้น ทำให้ลดเวลาในการสร้างโมเดลโครงการ และสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม BIM อื่นๆ เช่น Revit และ Archicad ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถลดความผิดพลาดจากการประสานงานระหว่างสถาปนิก และวิศวกรโครงสร้างไปได้มาก นอกจากนี้หากในกรณีที่สถาปนิกมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เพิ่มระยะของคาน ทางวิศวกรโครงสร้างก็สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าคานที่ยาวขึ้น จะมีผลต่อความแข็งแรงของอาคารหรือไม่ ซึ่งหากวิศวกรโครงสร้างและสถาปนิกที่ทำงานร่วมกัน มีการปรับ Work Flow ที่เหมาะสม จะสามารถลดเวลาในการ

ตัวอย่าง Work Flow การทำงานระหว่างสถาปนิกที่ทำงานด้วย Revit กับ วิศวกรที่ทำงานด้วย Prota

DDScad

เป็นซอฟท์แวร์ BIM ด้าน MEP ที่สามารถออกแบบ, วิเคราะห์, เขียนแบบ ได้ทั้ง 2D และ 3D รวมถึงทำ Clash Detection หรือแนะนำการหลีกเลี่ยง Clash ได้ โดยนอกจากผู้ออกแบบสามารถใช้ซอฟท์แวร์สร้างโมเดล Route Line ของงานระบบต่างๆ ได้แล้วนั้น ตัวโปรแกรมยังสามารถคำนวณค่าทางวิศวกรรมออกมาได้โดยอัตโนมัติ เช่น ระบบไฟฟ้ากำลังและแสงสว่าง, ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ, ระบบสุขาภิบาล เป็นต้น  ทำให้การทำงานสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับ Software BIM ตัวอื่นๆ ผ่านการแปลงไฟล์ เป็น ifc ได้ด้วย

ภาพตัวอย่างโปรแกรม DDScad

Solibri

เป็นซอฟท์แวร์ที่เช็คคุณภาพของ BIM Model ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะมองว่ามีเพียงการทำ Clash Detection เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงนั้น Solibri ยังมีความสามารถมากกว่านั้น เช่น สามารถตรวจสอบความถูกต้องของ BIM Model ตามข้อกำหนดของการออกแบบ, ตามฮวงจุ้ย หรือตามกฎหมายได้ เช่น ความกว้างของทางเดินในอาคาร, ระยะร่น, ความสูงของฝ้าในอาคาร, Vertical Clearance ในที่จอดรถ เป็นต้น ในปัจจุบันหลายหน่วยงานยังใช้มนุษย์ในการตรวจสอบข้อกำหนดต่างๆใน BIM Model ซึ่งเวลาในการทำงานค่าแรงของทีมงานเป็นต้นทุนที่พอสมควร นอกจากนี้ยังไม่สามารถมาตรวจสอบย้อนกลับว่าทำงานได้ถูกต้องอย่างครบถ้วนหรือไม่ การที่ใช้ซอฟท์แวร์ช่วยตรวจสอบสิ่งที่เป็นกฎเกณฑ์ที่แน่นอนนั้น ซอฟท์แวร์น่าจะทำงานได้ครบถ้วน รวดเร็ว และถูกกว่าการใช้มนุษย์ทำงาน

ตัวอย่างการตรวจสอบคุณภาพ BIM Model ว่ามีความกว้างทางเดิน, บันได, ประตู และทางลาดคนพิการเพียงพอตามข้อกำหนดหรือไม่ในคอนโนมีเนียม

PTV Viswalk

ในช่วงวันสิ้นปีที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเค้าท์ดาวน์และก็ได้เห็นว่าประชาชนจำนวนมากไปรวมตัวกันตามสถานที่ที่มีกิจกรรมซึ่งอาจจะมีจำนวนมากกว่าที่ทางผู้จัดคาดการณ์ไว้ ซึ่งก็เป็นที่น่ากังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมแบบที่ อิเทวอน เกาหลีใต้ เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา โดยใน BIMverse มีซอฟท์แวร์ PTV Viswalk ที่สามารถวิเคราะห์และจำลองการอพยพของประชาชนออกจากพื้นที่กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้รับผิดชอบสามารถวางแผนรองรับเหตุการณ์ร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด จริงอยู่ว่าหากไม่ใช้ Software นี้ในการวิเคราะห์ ผู้จัดงานอาจให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์โดยใช้การคำนวณด้วยตาราง Spreadsheet ทดแทนได้ อย่างไรก็ตาม Spreadsheet ไม่สามารถแสดงภาพ ที่ทำให้เห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน และยากต่อการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เช่น กู้ภัย, ตำรวจ

ตัวอย่างการทำแบบจำลองอพยพหนีไฟในสถานีรถไฟฟ้า

Lidar Scanner in iPhone

ไอเท็มนี้ไม่ใช่ BIM โดยตรง แต่จำเป็นต้องพูดถึงเนื่องจากเข้ามา Disrupt วงการ BIM จากการที่เคยเข้าสำรวจอาคารเพื่อทำการรีโนเวทโดยการสำรวจด้วยแรงงานคน ก็สามารถใช้ iPhone ราคาหลักหมื่นทำงานสำรวจได้ ผลในเวลาอันสั้น

ตัวอย่าง App Polycam ที่เป็น App ใน iOS ที่ใช้ Lidar ใน iPhone สแกนอาคารและสร้าง Floor Plan เป็น 3D Model ได้

Embodied Carbon Calculator

มีบริษัทในต่างประเทศหลายแห่ง แสดงตัวว่ามีโปรแกรม หรือให้บริการ หรือกำลังพัฒนา Software/Platform ที่ใช้ในการคำนวณ Carbon Footprint ของอาคารในช่วงการก่อสร้างรวมถึงตลอดอายุการใช้งานของอาคาร โดย Software ดังกล่าวทำงานร่วมกับ BIM Model แม้ว่าผู้เขียนยังไม่เคยมีประสพการณ์โดยตรงกับ Software เหล่านี้ แต่เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนในวงการ BIM และ Carbon Credit จึงแนะนำว่าควรศึกษาไว้เนิ่นๆ เพื่อโอกาสทางธุรกิจ ตัวอย่างองค์กรที่น่าจะให้บริการ Embodied Carbon Calculator เช่น Turner & Townsend, ASPEC, 3D Repo

บทสรุป

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีใน BIMverse ปัจจุบัน สามารถนำมาทดแทนมนุษย์ได้พอสมควร ซึ่งบุคลากรที่อยู่ในอุตสาหกรรม ควรปรับตัวไปตามเทคโนโลยีดังกล่าว ไปทำงานในส่วนที่ Software ยังพัฒนาไปไม่ทัน รวมถึงใช้ Software ที่มีอยู่เป็นเครื่องทุ่นแรงให้มากที่สุด อย่าพยายามแข่งกับ Software ในส่วนที่ Software เก่งกว่ามนุษย์ เพราะชนะได้ยาก