BIMobject-Build-your-house-with-BIM-Blog-Cover25

สร้างบ้านอย่างไรให้ราบรื่นไร้กังวลกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะผู้จ้าง ผู้รับเหมา วิศวกร สถาปนิก หรือแม้แต่คนทำงาน ขอบอกเลยว่า BIM ช่วยคุณได้ เพียงแค่การใช้เทคโนโลยีสอดแทรกเข้าไปตามการทำงานต่างๆ เพียง 5 ขั้นตอนคุณก็ช่วยลดปัญหาหน้างานที่อาจเกิดขึ้น ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มความปลอดภัยและความรวดเร็วในการทำงานอีกด้วย

1. วางแผนสร้างบ้าน

BIM (Building Information Modeling) ไม่ได้เป็นเพียงการออกแบบ 3 มิติเพื่อสร้างอาคารและสิ่งก่อสร้างเท่านั้น แต่เป็นระบบสำหรับการจัดการแบบองค์รวม ซึ่งครอบคลุมการออกแบบ จัดการ รวมถึงตรวจสอบความเรียบร้อย โดยมีบทบาทตั้งแต่

  • การวางผังอาคาร
  • การวางฐานราก
  • โครงสร้างแต่ละชั้น
  • งานวัสดุ
  • การตกแต่ง
  • เฟอร์นิเจอร์

โดย BIM จะทำหน้าที่เก็บและเชื่อมต่อข้อมูลไปยังบุคลากรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านและอาคารต่างๆ ดังนั้นยิ่งมีการกรอกข้อมูลละเอียดมากเท่าใด ก็จะช่วยดึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบ BIM ให้สูงขึ้นมากเท่านั้นและทำให้ปัญหาหน้างานที่อาจเกิดขึ้นลดลงได้ในระยะยาว

BIMobject-Build-your-house-with-BIM-01-scaled

2. คำนวณ Quantity takeoff

Quantity takeoff หรือการถอดปริมาณวัสดุ เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของ BIM ที่ช่วยให้การคำนวณว่าพื้นที่ไหนมีการใช้วัสดุชนิดใด เท่าไรบ้าง ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ตั้งแต่เหล็กเส้นที่ใช้ในการทำฐานรากไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์แต่ละตัว ทำให้ผู้รับเหมา เจ้าของบ้าน สถาปนิก เห็นปริมาณสิ่งต่างๆ ที่ใช้ในการทำงานตรงกัน

ซึ่งทางฝ่ายจัดซื้อ จัดจ้าง หรือผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินสามารถดึงข้อมูลวัสดุต่างๆ ไปทำการคำนวณราคาต่อได้ทันที ทำให้การสร้างบ้านและการเบิกงบประมาณเป็นไปอย่างโปร่งใส

3. ประสานงาน

โดยปกติแล้วในการก่อสร้างจะมีคนที่มาเกี่ยวข้องหลายฝ่าย ตั้งแต่สถาปนิกผู้ออกแบบ วิศวกรคำนวณโครงสร้าง วิศวกรงานระบบ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งหลายต่อหลายครั้งจะมีการมองไม่เห็นภาพเดียวกัน รวมถึงมีข้อมูลตกหล่นระหว่างทาง (Information loss) ทำให้ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ตรงตามความต้องการ

โดยภาพด้านล่างจะแสดงให้เห็นถึง Information Loss ในแต่ละกระบวนการ อ้างอิงจากทาง CPAC BIM

BIMobject-Information-Lost-Build-your-house-with-BIM-02

ซึ่งการใช้ระบบ BIM จะเข้ามาช่วยอุดช่องโหว่ด้านข้อมูลในส่วนนี้ โดยการทำให้บุคลากรทุกคนเชื่อมต่อเข้าสู่ฐานข้อมูลเดียวกันหมด ซึ่งทำให้การอัปเดต แก้ไข ข้อมูลต่างๆ ถูกส่งถึงพร้อมกันถ้วนหน้าแบบ Real-Time ลดความผิดพลาดที่จะเกิดหน้างานได้มากยิ่งขึ้น

การประสานงานด้วย BIM เป็นจุดเด่นสำหรับการก่อสร้าง เพราะการติดต่อสื่อสารเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และอาจต้องเชื่อมต่อข้อมูลงานต่างๆ ให้มีการอัปเดตไปในแนวทางเดียวกัน และทั่วถึงพร้อมกันหมด

4. ติดตามผล

ทำงานถึงจุดไหน ต้องการปรับปรุงเรื่องใดเพิ่ม มีการเบิกงบประมาณแบบไหน คำถามที่ในบางครั้งตรวจสอบได้ยากแต่ BIM สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้

เนื่องจากระบบ BIM จะทำการอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอดโดยอ้างอิงจากบุคลากรที่ทำงาน ทำให้สถาปนิกและคนที่ตรวจสอบงานสามารถติดตามผลการทำงานได้ตลอดเวลา ว่าในบ้านมีการทำงานถึงจุดไหนแล้วบ้าง เกิดปัญหาอย่างไรและควรแก้ไขปัญหาแบบไหน

5. ตรวจสอบคุณภาพ

การตรวจสอบคุณภาพเป็นอีกสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่รู้หรือไม่ว่าหากไม่มีกระบวนการตรวจสอบ บ้านของคุณอาจมีปัญหาระยะยาวได้เลย

นอกเหนือจากการตรวจสอบด้วยการจ้างผู้ตรวจสอบอาคารคุณภาพแล้ว การที่ทางผู้รับเหมาและวิศวกรมีเทคโนโลยี BIM ในการใช้งาน จะทำให้การตรวจสอบอาคารเกิดความสะดวกมากขึ้น สามารถเปรียบเทียบงานจริงกับการวางแผนได้ และสามารถแก้ไขได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้นหากเกิดข้อผิดพลาดอีกด้วย

BIMobject-Build-your-house-with-BIM-03-scaled

BIM ยังมีส่วนช่วยหลังโครงการก่อสร้างต่างๆ แล้วเสร็จ โดยมีบทบาทอย่างมากในส่วนของการรีโนเวท เช่น หากผู้อยู่อาศัยต้องการต่อเติมท่อน้ำ ระบบไฟต่างๆ เพิ่มเติม ก็สามารถตรวจสอบฐานข้อมูลจากระบบ BIM ได้ทันที ว่ามีการวางแผนผังอย่างไร สามารถต่อเติมในระยะสั้นที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดอย่างไรได้บ้าง

แม้แต่การตกแต่งเองเช่นการทาสีก็สามารถช่วยได้ โดยการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังจาก BIM Model ว่าเดิมทีมีการใช้สียี่ห้อไหน Product Code หรือ Barcode ใด จะช่วยให้การทำงานราบรื่นมากยิ่งขึ้น

สรุป

ขึ้นชื่อว่าการสร้างบ้านนั้น ย่อมเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนสูงในระดับหลักแสนถึงหลักล้าน และการเกิดปัญหาหน้างานเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยครั้ง สำหรับผู้ประกอบการที่รับทำบ้านรูปแบบเดิมๆ อย่างคอนโดหรือหมู่บ้านจัดสรร ยิ่งต้องใช้ระบบที่ดีและมีคุณภาพ การเลือกใช้งาน BIM นับเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาวซึ่งช่วยในการออกแบบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ที่นอกจากจะสร้างระบบการทำงานในทีมที่ดีแล้ว ยังช่วยให้งานของคุณได้มาตรฐานสากล น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ร่วมงานอีกด้วย

สำหรับผู้ที่กำลังทำงานออกแบบบ้าน หรือใช้งานโปรแกรมออกแบบ 3 มิติและต้องการค้นหาโมเดลเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ เพื่อตกแต่งแล้วล่ะก็ สามารถเข้ามาดูได้ที่ BIMobject แหล่งรวมโมเดล 3 มิติจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 2,000 แบรนด์เพียงสมัครสมาชิกก็ดาวน์โหลดได้เลยฟรีๆ!!