รวม 10 โปรแกรมออกแบบ 3 มิติ ใช้ได้ตั้งแต่มือใหม่จนถึงมืออาชีพ

โปรแกรมออกแบบโมเดล 3 มิติมีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งในแต่ละโปรแกรมก็จะมีฟังก์ชันและการทำงานยิบย่อยแตกต่างกันออกไป บางโปรแกรมโดดเด่นในการใช้ทำแอนิเมชัน บางโปรแกรมสามารถทำสิ่งก่อสร้างได้ดี และบางโปรแกรมใช้หลักการทำงาน BIM (Building Information Modeling)

ในบทความนี้เราได้รวม 10 โปรแกรมออกแบบยอดฮิต รวมถึงข้อดีของแต่ละโปรแกรม และแน่นอน ลิงก์เพื่อดาวน์โหลด Trial Version มาให้ได้ลองใช้กันจริงกัน

โปรแกรมออกแบบ 3 มิติยอดฮิตปี 2021

1. Revit

 

Revit คือโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ ที่ใช้หลักการทำงานแบบ BIM (Building Information Modeling) ซึ่งเป็นการออกแบบและแชร์ฐานข้อมูล ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึง ปรับเปลี่ยน และใช้งานข้อมูลต่างๆ ได้ โดยภายใน Revit ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่รองรับการออกแบบการสร้างสิ่งก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ทางวิศวกรรมต่างๆ โดยอ้างอิงจากสเกลจริง ความละเอียดสูง สามารถจำลองค่าต่างๆ ทางวิศวกรรมได้ละเอียด ทำให้ Revit ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างในปัจจุบัน

จุดเด่น

• มีการทำงานรูปแบบ BIM ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงไฟล์งานได้ง่าย
• ความละเอียดสูง เหมาะสำหรับการทำงานร่วมกับการสร้างอาคาร
• Community มีความเข้มแข็ง มีแบบจำลองต่างๆ แชร์ให้ลองใช้งานอยู่ตลอด

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://asean.autodesk.com/products/revit/free-trial

2. Sketchup

โปรแกรมออกแบบด้านสถาปัตยกรรมชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สามารถใช้งานได้มากมายตั้งแต่การออกแบบภายนอก ตกแต่งภายใน วิศวกรรม มีข้อดีคือการใช้งานที่ง่าย สะดวก สามารถหัดได้ง่ายๆ ด้วยเวอร์ชันที่ทำงานบนเว็บ แน่นอนว่าหากอยากใช้งานแบบมืออาชีพก็จะมีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ก็แลกกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่มากขึ้น รวมถึงพื้นที่การเก็บข้อมูลที่เยอะขึ้นด้วย

จุดเด่น

• สามารถใช้งานบนเว็บไซต์ได้
• รองรับระบบ VR Model
• UX/UI ใช้งานง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้ใหม่
• Community ที่แข็งแรง พร้อมช่วยกันแก้ปัญหา

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://www.sketchup.com/try-sketchup

3. Blender

Blender คือหนึ่งในโปรแกรมเขียนแบบ ออกแบบ รวมถึงทำแอนิเมชัน 3 มิติฟรีแบบ 100% ที่มีคุณภาพที่สุดโปรแกรมหนึ่งในขณะนี้ ด้วยความสามารถที่รอบด้าน และส่วนเสริมต่างๆ ที่ถูกสร้างโดย Community ของ Blender ทำให้โปรแกรมนี้สามารถ “ทำอะไรก็ได้” ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ

จุดเด่น

• การเรนเดอร์งานด้วย Cycle แลพ Eevee ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Blender
• Add-on ต่างๆ มากมายตั้งแต่การปรับ Shortcut ไปจนถึงการปรับคุณภาพโปรแกรม
• ฟรี!!

สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่ https://www.blender.org/

4. AutoCAD

CAD (Computer Aided Design) หรือการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ คือรากฐานของการใช้โปรแกรม AutoCAD ที่รองรับทั้งการออกแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบเครื่องจักร ชิ้นส่วนระดับอุตสาหกรรม สิ่งก่อสร้าง

จุดเด่น

• ความละเอียดสูง เหมาะสำหรับการออกแบบที่ต้องการความแม่นยำ
• รองรับการเขียนแบบวงจรไฟฟ้า ชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ
• มีฟีเจอร์รองรับการสร้างสิ่งก่อสร้าง มี Library สิ่งก่อสร้างโดยเฉพาะ
• เหมาะสำหรับทำ 2D เป็นหลักแล้วเสริมด้วย 3D

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://www.autodesk.com/products/autocad/free-trial

5. ArchiCAD

ปรแกรมออกแบบบ้านและอาคาร 3 มิติ โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับสถาปนิกที่ต้องการออกแบบบ้านของตัวเอง สามารถคำนวณวัตถุดิบต่างๆ รายรับ-รายจ่ายในการออกแบบได้ เป็นอีกโปรแกรมที่มีการทำงานบนพื้นฐานของเทคโนโลยี BIM ที่ทำให้ทีมงานทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ในการสร้างอาคารได้

จุดเด่น

• มีการทำงานรูปแบบ BIM ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงไฟล์งานได้ง่าย
• เหมาะสำหรับการสร้างบ้านและอาคาร
• มีระบบคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ (Bill of Quantities) เพื่อให้การสร้างออกมาเหมาะสม

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://graphisoft.com/try-archicad

6. 3ds MAX

โปรแกรมสำหรับทำงานด้านออกแบบและแอนิเมชัน 3 มิติ ชั้นนำที่มีชื่อมาเนิ่นนาน รองรับการทำงานหลากหลายประเภท ตั้งแต่การออกแบบของง่ายๆ อย่างกาน้ำชา โดนัท ไปจนถึงการออกแบบบ้าน เป็นโปรแกรมสวยงาม มีความยืดหยุ่น และมีโมเดลสำเร็จรูปมากมายให้ใช้งาน

จุดเด่น

• รองรับการทำงานทั้งการออกแบบและแอนิเมชัน
• ใช้งานง่าย
• มีโมเดลสำเร็จรูปให้ใช้งานหลากหลาย

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://www.autodesk.com/products/3ds-max/free-trial

7. ZBrush

ZBrush เป็นโปรแกรมสำหรับคนที่สนใจการออกแบบงานศิลปะ โดยเฉพาะงานปั้นความละเอียดและมีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ โปรแกรม ZBrush เหมาะสำหรับการทำวัตถุนิ่ง ไม่เหมาะสำหรับการทำภาพเคลื่อนไหว สาเหตุเพราะการปั้นในโปรแกรมนี้มีการใช้ Polygon ในโมเดลจำนวนมาก หากต้องการใช้งานต่อแนะนำว่าควร Export โมเดลไปยังโปรแกรมอื่นเพื่อทำการ Retopology (ลดความละเอียด Polygon) ก่อน

จุดเด่น

• สามารถใช้ปั้นงานความละเอียดสูงได้ดี
• UX/UI เรียบง่าย จำลองการปั้นชั้นสูงจนเหมือนกับการปั้นด้วยมือตัวเอง
• เหมาะสำหรับการทำงานศิลป์

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://pixologic.com/zbrush/trial/

8. Solidworks

โปรแกรม Solidworks ถือเป็นโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ ที่เหมาะกับการใช้งานทางวิศวกรรมโดยเฉพาะ ตั้งแต่ยานยนต์ เครื่องจักร อุตสาหกรรมการบิน Solidworks สามารถออกแบบ 2D-3D รวมถึงการจำลองการใช้งานโมเดล 3 มิติที่สร้างขึ้นมา วิเคราะห์ผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ความแข็งแรง อายุการใช้งาน หากต้องการสร้างชิ้นงานจริง รวมถึงรองรับระบบ CNC ทำให้วิศวกรสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น

จุดเด่น

• รองรับการทำงานทั้ง 2D และ 3D
• รองรับการวิเคราะห์ทางวิศวกรรม สามารถจำลองการใช้งานวัตถุได้
• สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องจักร CNC ในโรงงานได้

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://www.solidworks.com/online-product-trials

9. Cinema 4D

โปรแกรมสำหรับทำ 3D Motion Graphic หรือการทำภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ ซึ่งมีข้อดีที่สามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ในแอนิเมชันได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องผ่านการเรนเดอร์ สามารถแสดงตัวอย่างไฟล์คุณภาพสูงได้ทันที ลดความซับซ้อนในการตั้งค่าที่มีอยู่ในโปรแกรมอื่นๆ เหมาะสำหรับฝึกทำแอนิเมชันจนถึงการทำแอนิเมชันระดับมืออาชีพ

จุดเด่น

• Fast & Easy workflow เน้นการใช้งานที่ง่าย สามารถเข้าถึงได้ในเวลาอันสั้น
• รองรับการ Preview ขั้นสูง สามารถเห็นงานได้ทันทีโดยไม่ต้องเรนเดอร์
• มี Tools ด้านแอนิเมชันที่หลากหลาย

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://www.maxon.net/en/try/

10. Fusion 360

โปรแกรมออกแบบ 3 มิติ ที่รองรับการทำงานบนระบบ Cloud Base สามารถออกแบบเครื่องกล อุปกรณ์ในอุตสาหกรรม จำลองสถานการณืต่างๆ ในการผลิตได้ จุดเด่นคือความเป็น Cloud Base ทำให้ผู้ใช้สามารถทงานที่ไหนก็ได้ รองรับการทำงานของภาษาโปรแกรมมิ่งต่างๆ เช่น Javascript หรือ Python ด้วยส่วนเสริมของโปรแกรม

จุดเด่น

• การทำงานแบบ Cloud Base ทำให้เข้าถึงโปแกรมที่ไหนก็ได้
• รองรับการทำงานร่วมกับ CAD, CAM, CAE และ PCB
• รองรับการทำงานร่วมกับภาษาโปรแกรมมิ่งอื่นๆ

ทดลองใช้โปรแกรมได้ที่ https://www.autodesk.com/products/fusion-360/overview

สรุป

โปรแกรมออกแบบ 3 มิติมีมากมายหลายหลากให้เลือกสรร ผู้ที่ใช้งานควรเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมสำหรับตนเอง เช่น การก่อสร้างที่เป็นโปรเจ็กใหญ่ มีทีมงานหลายทีม อาจเลือกใช้โปรแกรม Autodesk Revit ที่รองรับการทำงานแบบมืออาชีพ สามารถคำนวณงานซับซ้อนได้ และรองรับการทำงานแบบ BIM หรือถ้าสายงานปั้น อาจเลือก Zbrush ที่มีฟังก์ชันรองรับการปั้นขึ้นรูปที่สวยงาม หรือถ้าชอบ Add-on เยอะๆ Blender ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

หากคุณเป็นอีกคนที่ทำโมเดล 3D และกำลังศึกษารูปแบบโมเดลต่างๆ ที่ BIMobject ของเราให้บริการดาวน์โหลดโมเดลเกี่ยวกับการก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์กว่า 2,000 แบรนด์รองรับรูปแบบสกุลไฟล์มากกว่า 70 รูปแบบ เช่น 3Ds, Sketchup, Solidworks Assembly, Revit, XML และอีกมากมายที่ได้มาตรฐานจากผู้ออกแบบจริง สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ BIMobject Thailand!!