การเขียนแบบก่อสร้างเป็นสิ่งที่มีการพัฒนาตามกาลเวลาอย่างเห็นได้ชัด มนุษย์เริ่มจากการเขียนแบบง่ายๆ ลงพื้นดิน แล้วพัฒนามาเป็นการวาดสิ่งก่อสร้างต่างๆ ลงบนกระดาษ พร้อมเพิ่มรายละเอียดเชิงลึกและสเกลต่างๆ มากมายเพื่อรองรับงานที่ซับซ้อนมากขึ้น และในปัจจุบันการออกแบบ 3 มิติ ก็กลายเป็นหนึ่งในพื้นฐานการเขียนแบบการก่อสร้างไปแล้ว
วันนี้ทาง BIMspace จะพาทุกท่านไปรู้จักกับขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณควรรู้เมื่อต้องการเริ่มเขียนแบบก่อสร้างด้วย BIM เพื่อให้การทำงานทั้งหมดออกมาได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
1. ทำความรู้จักเทคโนโลยี BIM และโปรแกรมเขียนแบบก่อสร้างที่รองรับ
“BIM จำเป็นด้วยเหรอ ถ้าเรามีการเขียนแบบ 3 มิติปกติอยู่แล้ว”
คำถามนี้อาจปรากฎขึ้นในใจใครหลายคนโดยเฉพาะผู้ที่คุ้นชินกับการเขียนแบบ เพราะหากมองภายนอก BIM เป็นแค่จุดเชื่อมโยงระหว่างโปรแกรมที่คอยใช้ส่งข้อมูลไปๆ มาๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าฟังก์ชันของ BIM นั้นลึกมากกว่าที่เห็น และการสร้างโมเดล 3 มิติเป็นเพียง “ส่วนเดียว” ของ BIM เท่านั้น
ยกตัวอย่างโปรแกรม Autodesk Revit หนึ่งในโปรแกรม BIM ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ตัว Revit จะถูกใช้ในการออกแบบและสร้างโมเดลตึก โมเดลบ้าน ไปจนถึงโมเดลห้องต่างๆ คล้ายกับโปรแกรม 3 มิติอื่นๆ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ “การกำหนดค่าต่างๆ และการแชร์รายละเอียดเชิงลึกของโมเดลสู่ภายนอก”
ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในห้องต่างๆ ความกว้าง ยาว สูง ของประตู พื้นที่นี้ต้องทาสีแบบไหน มีการทารองพื้น กันชื้น กันซึม หรือแม้แต่โมเดลโต๊ะ เก้าอี้ ล้วนแต่มี “ตัวเลข” อยู่ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะทำให้เหล่าสถาปนิก วิศวกร รวมถึงฝ่ายการเงินสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น เราไม่จำเป็นต้องนั่งนับหรือเปิด Excel เพื่อจดรายละเอียด ถ้ามีการกรอกข้อมูลที่ดีพอขอแค่เปิดโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับ BIM อย่าง Autodesk Revit และ Autodesk
ข้อดีของการใช้เทคโนโลยี BIM
1. ข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้น
2. ความรวดเร็วในการทำงานที่เพิ่มขึ้น
3. การประสานงานที่ชัดเจนไม่ตกหล่น
โดยเทคโนโลยี BIM ในปัจจุบันมีโปรแกรมรองรับมากมาย สำหรับโปรแกรมที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันได้แก่
โปรแกรมประเภทออกแบบ
1. Autodesk Revit
2. SketchUp
3. Archicad
4. Vectorworks
5. Tekla
โปรแกรมประเภทวิเคราะห์
1. Autodesk Naviswork
2. BIMtrack
3. BIMcollab
4. BIM360
5. BIM Assure
จะสังเกตได้ว่าในมุมของการสร้างผลงานนั้น BIM ไม่ได้มีแค่การออกแบบ แต่รวมไปถึงการวิเคราะห์ตัวเลขจากโมเดลสิ่งปลูกสร้างและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งการใช้งานร่วมกันนี้จะเป็นการดึงศักยภาพสูงสุดของเทคโนโลยี BIM ออกมา
ไม่เพียงแค่นั้น ในส่วนของการนำเสนอยังมีโปรแกรมแยกย่อยออกไปอีกมากมาย ซึ่งผู้ที่ทำงาน BIM ที่ต้องการนำเสนอข้อมูลแบบเข้าใจง่าย อย่าง trimble connect หรือ BIM 360 ก็สามารถใช้ในกรณีนี้ได้เช่นกัน
2. เตรียม Hardware ที่เหมาะสม
โปรแกรมสำหรับเขียนแบบก่อสร้างที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี BIM มีมากมาย ทั้งในส่วนการคำนวณค่าใช้จ่าย กำหนดสโคปงานต่างๆ และที่สำคัญเลยคือโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ ที่เป็นส่วนใช้ทรัพยากรในเครื่องมากที่สุด โดยเฉพาะถ้ามีการสร้างโมเดลที่ซับซ้อน ใครที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์แรงไม่พออาจเกิดอาการกระตุกไปจนถึงโปรแกรมค้างได้เลย
โดยเราขอยกสเปค Hardware คอมพิวเตอร์สำหรับใช้งาน BIM ขั้นต้นเอาไว้โดยอ้างอิงจาก โปรแกรมด้าน BIM ยอดฮิตอย่าง Autodesk Revit 2022 ทั้งขั้นต่ำ (สำหรับผู้เริ่มต้น) และขั้นสูง (สำหรับโมเดลใหญ่และซับซ้อน) ดังนี้
ความต้องการขั้นต่ำ
Operating System * | 64-bit Microsoft® Windows® 10. |
CPU Type | Intel® i-Series, Xeon®, AMD® Ryzen, Ryzen Threadripper PRO. 2.5GHz or Higher.Highest CPU GHz recommended. Autodesk® Revit® software products will use multiple cores for many tasks. |
Memory | 8 GB RAM |
Video Display Resolutions | Minimum: 1280 x 1024 with true colorMaximum: UltraHigh (4k) Definition Monitor |
Video Adapter | Basic Graphics: Display adapter capable of 24-bit colorAdvanced Graphics: DirectX® 11 capable graphics card with Shader Model 5 and a minimum of 4GB of video memory |
Disk Space | 30 GB free disk space |
Pointing Device | MS-Mouse or 3Dconnexion® compliant device |
.NET Framework | .NET Framework Version 4.8 or later. |
Browser | Microsoft Internet Explorer 10 (or higher) |
Connectivity | Internet connection for license registration and prerequisite component download |
ความต้องการขั้นสูง
Operating System * | 64-bit Microsoft® Windows® 10. |
CPU Type | Intel® i-Series, Xeon®, AMD® Ryzen, Ryzen Threadripper PRO. 2.5GHz or Higher.Highest CPU GHz recommended. Autodesk® Revit® software products will use multiple cores for many tasks. |
Memory | 32 GB RAM |
Video Display Resolutions | Minimum: 1920 x 1200 with true color Maximum: Ultra-High (4k) Definition Monitor |
Video Adapter | DirectX 11 capable graphics card with Shader Model 5 and a minimum of 4GB of video memory |
Disk Space | 30 GB free disk space 10,000+ RPM HardDrive (for Point Cloud interactions) or Solid State Drive |
Pointing Device | MS-Mouse or 3Dconnexion compliant device |
.NET Framework | .NET Framework Version 4.8 or later. |
Browser | Microsoft Internet Explorer 10 (or higher) |
Connectivity | Internet connection for license registration and prerequisite component download |
รายละเอียดด้านบนอ้างอิงมาจากทาง Autodesk Revit 2022 หากคุณต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับสเป็ค Hardware สามารถดูเพิ่มเติมได้ในลิงก์ System requirements for Revit 2022 products เลยครับ
3. กำหนดทีมงานที่เกี่ยวข้องกับ BIM ให้ชัดเจน
การเขียนแบบ 3 มิติเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี BIM เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าในการทำงานย่อมมีบุคลากรมากกว่า 1 คน ดังนั้นก่อนเริ่มต้นงาน นอกจากจะต้องทำความเข้าใจถึงความสำคัญรวมถึงความสะดวกสบายในการใช้ BIM แล้ว ยังต้องมีการวางโครงข่ายการทำงานด้วย เช่น
- สถาปนิกและวิศวกรคอยตรวจสอบโมเดล
- บัญชีคอยตรวจสอบและคำนวณการก่อสร้าง
- ฝ่ายขายเข้ามาดูการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ
ยิ่งเราใช้บุคลากรได้ถูกกับงานแค่ไหน BIM จะยิ่งแสดงประสิทธิภาพออกมาได้มากเท่านั้น เช่น ฝ่ายบัญชีสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายจากการติดตั้งประตู หน้าต่าง ภายในอาคารได้ทันทีจากโปรแกรมเขียนแบบก่อสร้างโดยที่ไม่จำเป็นต้องลงไปนับเอง เนื่องจากได้รับข้อมูลการคำนวณผ่านเครือข่าย BIM ที่ได้มีการระบุจากสถาปนิกไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นต้น
4. เรียนรู้ฟังก์ชันต่างๆ ภายในโปรแกรมที่ทำงานแบบ BIM
สำหรับคนที่มีพื้นฐานการออกแบบและสร้างโมเดล 3 มิติมาแล้ว การเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมที่มีเทคโนโลยี BIM รวมอยู่ภายในจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย โดยเราจะขอยกฟังก์ชันที่มีความแตกต่างจากโปรแกรมออกแบบ 3 มิติดังนี้
ฟังก์ชันที่ควรรู้ภายในโปรแกรมที่ทำงานแบบ BIM (อ้างอิง Autodesk Revit)
- มุมมอง (View) ต่างๆ ภายในโปรแกรม
- การวาง Grid สำหรับอาคาร
- การปรับค่าต่างๆ เช่น คาน เสา พื้น
- การระบุชนิดโมเดล เช่น เสา กำแพง ประตู รวมถึงกำหนดวัสดุอย่างคอนกรีต เหล็ก
- การถอดแบบโมเดล
- การใส่โมเดลเพิ่มเติมจากภายนอก
- การจัดทำแปลนและแผนงานจากโปรแกรมที่ใช้
- คีย์ลัดต่างๆ
สำหรับท่านที่กำลังเขียนแบบก่อสร้าง ศึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม และตกแต่งโมเดลของตนเองอยู่ และสนใจจะหาโมเดลเพิ่มเติมเพื่อทำให้การออกแบบสมบูรณ์มากขึ้น BIMobject มีบริการให้ดาวน์โหลดโมเดลมากมายหลายสกุลไฟล์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโมเดลจริง มีวางขาย พร้อมขนาดสเกลต่างๆ ตรงตามของจริง สามารถอดปริมาณและคิดราคาการก่อสร้าง (Bill of Quantities) ได้ทันที สมัครสมาชิกและดาวน์โหลดโมเดลได้ฟรีที่ BIMobject
5. เริ่มด้วยการทำงานที่มีความซับซ้อนน้อย
สำหรับคนที่มีพื้นฐานการออกแบบอยู่แล้วอาจมองว่าโปรแกรมที่เกี่ยวกับ BIM เป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย แต่เมื่อเจาะลึกไปในส่วนของฟังก์ชันจะพบว่าในส่วนของการกำหนดค่าต่างๆ มีความซับซ้อนไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าพื้นฐานอย่างการวาง Structure ต่างๆ จนถึงการถอดปริมาณงาน อย่างงานฐานรากและงานคาน เสา
เพื่อการใช้งานที่ละเอียดและครอบคลุมเราจึงขอแนะนำว่าควรเริ่มจากงานที่มีความซับซ้อนต่ำ เน้นความถูกต้องแม่นยำของค่าต่างๆ หรือใช้ Template ในการใช้งาน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สามารถต่อยอดใช้งานได้จริง
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน BIM และยังไม่สันทัดโปรแกรมมากนัก เราขอแนะนำ Autodesk Revit ที่เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ใช้งานมากที่สุด อีกทั้งยังมี Add-on ภาษาไทย ทำให้คุณสามารถใช้งานโปรแกรมได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Thai Pack for Revi
สรุป
การใช้งานเทคโนโลยี BIM ไม่ใช่เรื่องยากโดยเฉพาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานในการสร้างโมเดลและพื้นฐานการออกแบบทั่วไปอยู่แล้ว สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาหลักๆ จะเป็นส่วนของการระบุข้อมูลและเพิ่มรายละเอียดโมเดลต่างๆ เพื่อการประสานงาน วิเคราะห์ และคำนวณ ทำให้ทุกๆ ฝ่ายที่ทำงานเกี่ยวกับโมเดลชิ้นนี้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น
ซึ่งแน่นอนว่าเราขอแนะนำว่าควรศึกษาพื้นฐานเกี่ยวกับโปรแกรมให้แน่นพอ มี Hardware ที่เหมาะสมกับการทำงานและใช้โปรแกรมอย่างถูกต้อง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ปัจจุบันเชื่อมโยงเหล่าสถาปนิกและวิศวกรทั่วโลกอย่าง BIM ได้แล้ว
และท่านที่ต้องการศึกษา BIM เพิ่มเติม เรามีคอนเทนต์และข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับ BIM มากมายรวบรวมไว้ที่ BIMspaces พื้นที่แรงบันดาลใจสำหรับการออกแบบสำหรับคุณ และสำหรับท่านที่สนใจโมเดล 3 มิติและการออกแบบที่ตรงตามสเกลจริง สามารถปรับใช้งานได้ทันที เราก็มีเว็บไซต์ที่รวบรวมโมเดลมากมายซึ่งได้รับความเชื่อใจจากบริษัทออกแบบกว่า 100 แบรนด์ ให้บริการ เพียงสมัครสมาชิกก็สามารถดาวน์โหลดโมเดลได้ฟรีที่ BIMobject